Wednesday, October 14, 2015

รีวิวหนังสือนิทาน "แม่ตามใจเพราะกุ๊กไก่เป็นเด็กดีจ้ะ"


         
ผู้แต่ง : NORIKO KUDOH
ผู้แปล : สุนันท์ ลีลาผาสุข 
สำนักพิมพ์ : Nanmeebooks kiddy
เวปไซต์สำนักพิมพ์ : http://www.nanmeebooks.com/book/online_cat1_detail.php?bid=3861&isbn=0411-85-6 

เป็นนิทานเกี่ยวกับครอบครัวกุ๊กไก่ที่มี พ่อ แม่ และพี่ ๆ น้องๆ พากันไปเที่ยวป่าสวนสนุก เนื้อเรื่องเริ่มจากตอนเช้าแม่เตรียมอาหารใส่ตะกร้า แล้วทั้งหมดก็ไปขึ้นรถ มุ่งหน้าสู่สวนสนุก เล่นเครื่องเล่น 3-4 อย่าง แล้วก็ขับรถกลับบ้าน

จากเวปไซต์ของสำนักพิมพ์จัดเล่มนี้อยู่ในหมวด "นิทานสร้างนิสัยดี" คงเพราะในชุดนี้มีอีกเล่มหนึ่งชื่อ "แม่ไม่ตามใจ เพราะรักลูกจ้ะ" แต่ถ้าได้อ่านเล่มเที่ยวสวนสนุกนี้เป็นเล่มแรก จะรู้สึกว่าเนื้อหาเป็นแนวๆ เที่ยวสวนสนุกแล้วได้เล่นอะไรสนุกสนานมากกว่าค่ะ

ความจริงเนื้อเรื่องค่อนข้างเรียบและตรงไปตรงมา แต่ที่ดิฉันชอบเล่มนี้เพราะเหตุผล 2 อย่าง 
เหตุผลแรกคือ "ภาพประกอบ" ภาพในเล่มนี้มีรายละเอียดเยอะจริงๆ

แต่ละหน้าจะมีวาดสิ่งละอันพันละน้อยที่อยู่รอบตัวกุ๊กไก่ ไม่ได้เน้นแต่ตัวเอกคือกุ๊กไก่เพียงอย่างเดียว เด็กจะได้ฝึกสังเกตและสร้างสรรค์เรื่องราวเพิ่มเติมได้จากภาพประกอบนั้น เช่นหน้าแรก ภาพแม่ไก่เตรียมแซนด์วิช แสดงให้เห็นถึงห้องครัวอันอบอุ่นที่เต็มไปด้วยอาหาร ขนมปัง ผัก ผลไม้ และเครื่องปรุงต่าง ๆ ที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน

หน้าอื่น ๆ ที่เป็นสวนสนุก ก็มีสัตว์ชนิดต่าง ๆ ทั้งหมี แมวน้ำ เสือ ลิง กบ ฯลฯ มาเทียวกันมากมาย คุณแม่สามารถชี้ชวนให้ดูสิ่งแวดล้อมรอบตัวกุ๊กไก่ ทำให้ลูกมีส่วนร่วมในนิทาน และเป็นการสอนลูกอย่างอ้อมๆ ว่า การช่างสังเกตสิ่งรอบตัวนั้นให้ประโยชน์แก่เราอย่างไร และทุก ๆ อย่างรอบตัวเราล้วนมีความหมาย มีเรื่องราวในตัวมันเอง

หน้าเขาวงกต ให้ช่วยกุ๊กไก่หาทางออกจากเขาวงกต

หน้าที่เล่นบอลลูน สูงขึ้นไปบนท้องฟ้า ให้ลูกสังเกตสิ่งที่อยู่บนพื้นดินว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งเล่มนี้วาดสิ่งก่อสร้างบนพื้นดินไว้หลายอย่าง มีแม้แต่รถไฟและรางรถไฟที่อยู่ห่างออกไป

หน้าที่ปีนบ้านต้นไม้ ลองตั้งคำถามให้ลูกคิด...ถ้าให้เลือกระหว่างปีนเชือก ปีนบันได กับไต่ก้อนหินขึ้นไป อะไรจะขึ้นต้นไม้ได้ง่ายที่สุดน๊าาา 

ยังมีรายละเอียดอื่น ๆ ที่จะชวนลูกดูได้อีก เช่น หน้าที่เป็นรุปกุ๊กไก่พี่น้องลื่นไม้ลื่น นอกจากจะชวนลูกดูไม้ลื่นอันใหญ่ซับซ้อนน่าสนุกแล้ว สิ่งที่น่าสังเกตอย่างอื่นคือสัตว์ชนิดอื่นที่เล่นด้วยกัน เช่น มีลูกไก่สีเทาตัวหนึ่งเล่นด้วย แต่ลูกไก่สีเทาไม่มีพ่อแม่อยู่ด้วยในหน้านั้น ลองตั้งคำถามให้ลูกคิดว่า พ่อแม่ไปไหนน๊าาา แล้วเค้ามากับใคร เรามาลองหาดูกัน (เปิดไปเปิดมา สรุปว่าไปเจอพ่อแม่ลูกไก่สีเทาที่หน้าแรก ๆ ตอนลงจากรถค่ะ)

อีกเหตุผลหนึ่งที่ดิฉันชอบนิทานเล่มนี้คือ อ่านแล้วรู้สึกได้ถึงบรรยากาศแห่งความอบอุ่นในครอบครัว ทำให้นึกถึงความสุขที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อนของเด็กๆ ที่ไม่ได้มีเงื่อนไขมากมายเลย เพียงได้อยู่กับพ่อแม่พี่น้อง มีกิจกรรมทำร่วมกันก็มีความสุขแล้ว
ผู้เขียน Noriko Kudoh (โนะริโกะ คุโดะ) ผู้แปล สุนันท์ ลีลาผาสุข

© Copy Right by SE-EDUCATION Public Company Limited.

อ่านเพิ่มเติมได้ที่: https://www.se-ed.com/product/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%88-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B0.aspx?no=9786160411856
ผู้เขียน Noriko Kudoh (โนะริโกะ คุโดะ) ผู้แปล สุนันท์ ลีลาผาสุข

© Copy Right by SE-EDUCATION Public Company Limited.

อ่านเพิ่มเติมได้ที่: https://www.se-ed.com/product/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%88-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B0.aspx?no=9786160411856
ผู้เขียน Noriko Kudoh (โนะริโกะ คุโดะ) ผู้แปล สุนันท์ ลีลาผาสุข

© Copy Right by SE-EDUCATION Public Company Limited.

อ่านเพิ่มเติมได้ที่: https://www.se-ed.com/product/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%88-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B0.aspx?no=9786160411856

Sunday, October 4, 2015

เล่นร้อยกระดุม ฝึกสมาธิ ฝึกสายตา และการกะระยะ


       ของเล่นประเภทร้อยเชือกไม่ว่าจะเป็นกระดุม ลูกปัด บล็อกไม้ นอกจากจะช่วยสร้างสมาธิแล้วยังมีประโยชน์ด้านฝึกกล้ามเนื้อ ฝึกสายตา การกะระยะ การแยกประเภทและแยกสี ที่โรงเรียนอนุบาลก็มักจะมีของเล่นร้อยเชือกไว้ให้เด็กฝึก ซึ่งส่วนมากจะเป็นวัสดุไม้และมีไม้นำร้อยเชือก

       แรกเริ่มตอนที่คิดจะให้ลูกเล่นประเภทร้อยเชือก ด้วยความอยากประหยัดดิฉันจึงไปซื้อลูกปัดเม็ดเล็กๆ ราคาถุงละ 10 บาท จากตลาดนัดแถวบ้านมาให้ลองดูก่อน โดยซื้อมาคู่กับเอ็นร้อยลูกปัดทั้งแบบยืดได้และไม่ยืด แต่ตอนนั้นลูกอายุน้อยเกินไป ไม่สามารถกะระยะและควบคุมนิ้วมือให้ร้อยเอ็นเข้าไปในรูลูกปัดได้ จึงต้องประยุกต์ใช้ลูกกระดุม

       กระดุมตามภาพได้มาจากร้านขายผ้า เป็นกระดุมจริงๆ คละแบบที่ร้านขายเกือบหมดรุ่นแล้วจึงไม่มีแบบเข้าชุดกันเขาเลยเอามาเลหลังขาย มีแบบละกี่เม็ดก็ซื้อเท่านั้น (ความจริงถ้ามีเวลาไปสำเพ็งน่าจะเลือกได้มากกว่านี้และมีเป็นสี ๆ สดใสมากกว่าค่ะ) ดิฉันเลือกเม็ดใหญ่ที่สุดเท่าที่มีเพื่อให้ง่ายต่อการฝึกร้อย

      ส่วนเชือก ใช้ไหมพรมธรรมดานี่แหละค่ะ แต่ไหมพรมจะมีปัญหานิดหน่อยคือปลายไหมจะอ่อนนุ่ม เป็นอุปสรรคเวลาร้อยเข้าไปในกระดุมเพราะไม่แข็งพอที่เด็กเล็กจะแยงผ่านรูเข้าไป ซึ่งปกติของเล่นฝึกร้อยเชือกจะต้องมีส่วนแข็งเอาไว้นำร้อย (นึกถึงเชือกผูกรองเท้าที่จะมีส่วนแข็งที่สุดไว้ร้อยลงรู) ดิฉันแก้ปัญหาโดยใช้สก็อตเทปพันซ้อน ๆ 2-3 ชั้น รอบปลายไหม ให้มีความแข็งของชั้นสก็อตเทปเพื่อเป็นส่วนนำร้อย ผลออกมาก็แข็งแรงพอใช้

     การร้อยกระดุมเป็นการฝึกพื้นฐานให้ลูกเข้าใจความหมายของการร้อยสิ่งของเรียงกันในเชือก รู้จักกะระยะให้เชือกเข้าไปในรูลูกกระดุม และควบคุมนิ้วมือตัวเองในการร้อยเชือก เมื่อทำได้ดีแล้ว การขยับมาเป็นลูกปัดก็จะง่ายขึ้นค่ะ

     เวลาให้ลูกร้อยกระดุมนี้ลูกจะนิ่ง มาก คือเขาจะมีสมาธิอย่างมาก ส่วนมากเขาจะร้อยจนหมดลูกกระดุมที่ซื้อมา ซึ่งใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที ผู้ปกครองเพียงแต่คอยจับตาดูไว้ให้แน่ใจว่าเขาไม่เอากระดุมเข้าปาก ซึ่งถ้าซื้อเป็นกระดุมเม็ดใหญ่ๆ ก็จะช่วยป้องกันอันตรายส่วนนี้ได้มากค่ะ 

Friday, October 2, 2015

เล่นแป้งโดว์ : เพิ่มความสนุกสนานด้วยอุปกรณ์และแม่พิมพ์

        เมื่อมีแป้งโดว์หลากสีหลายๆ ก้อนแล้ว เพื่อเพิ่มความสนุกสนานและสมจริงเวลาปั้น การมีอุปกรณ์สำหรับตัด แต่ง แบ่ง พิมพ์ ก็จะได้ต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ได้หลากหลายมากขึ้น อุปกรณ์พื้นฐานที่น่าจะมีก็พวก ที่คลึงอันเล็กๆ แม่พิมพ์รูปต่าง ๆ มีดของเล่นอันเล็ก ถ้าเอาแบบหรู ๆ หน่อยก็มีพวกอุปกรณ์ฉีดเส้นแป้งเป็นสปาเก๊ตตี้ หรือแม่พิมพ์ไอศกรีม เค้ก วาฟเฟิล ฯลฯ ที่มักจะขายเป็นชุดบรรจุกล่อง

สำหรับที่บ้าน อุปกรณ์เสริมเล่นแป้งโดว์จะมีแค่ที่คลึง มีดของเล่น และแม่พิมพ์ค่ะ ซื้อมาจากตลาดนัดราคาไม่แพง (มีดของเล่นได้มาจากชุดครัวของเล่นค่ะ เอามาประยุกต์ใช้เล่นกับแป้งโดว์ซะเลย)





อุปกรณ์บางอย่างถ้าไม่อยากหาซื้อ ก็เอาของที่บ้านมาประยุกต์ได้ค่ะ

- มีดของเล่นอันเล็ก ถ้าไม่มีก็เอาไม้บรรทัด หรือกระดาษแข็งเหลือ ๆ เช่นกล่องกระดาษใส่ขนมที่รับประทานหมดแล้วมาใช้แทนได้ เพราะแป้งโดว์นี้นิ่ม กระดาษแข็งๆ หน่อยก็สามารถตัดแบ่งได้

- ที่คลึงแป้ง อาจใช้กระป๋องพลาสติกใส่ขนมที่ไม่ใช้แล้ว(รูปทรงกระบอก) หรือขวดน้ำดื่มขนาดเล็ก กระป๋องโก๋แก่ ขวดซันไลท์ขนาดเล็กที่หมดแล้ว มาใช้แทนได้

- ไม่จิ้มฟัน มีประโยชน์เวลาเอามาทำตาจมูกปาก แต่ต้องระวังเวลาลูกเล่น เพราะเด็กชอบเอาไม้ไปผสมกับแป้งแล้วในที่สุดจะถูกก้อนแป้งกลืนไปทำให้มองไม่เห็น อาจถูกไม่จิ้มมือได้

- พิมพ์รูปวงกลม สามารถหาอุปกรณ์พลาสติกมาแทนได้ เช่น ฝาขวดน้ำดื่มที่เป็นพลาสติก หรือหลอดไซส์ใหญ่เช่นหลอดดูดชานมไข่มุกตัดให้สั้น หรือฝากระปุกต่าง ๆ ที่มีขอบสูงหน่อยเป็นต้น (แกนกระดาษทิชชู่ก็พอไหวค่ะแต่ขอบวงกลมอาจไม่เรียบเท่าไหร่)

ข้อดีของอุปกรณ์ทำเองพวกนี้นอกจากประหยัด(และสอนลูกให้รู้จักประหยัดได้ด้วย)แล้ว ยังเป็นการลดโลกร้อนโดยการนำสิ่งของมาใช้อย่างคุ้มค่า

และ ความสะดวกของแม่ คือวัสดุเหลือใช้พวกนี้เล่นเสร็จแล้วก็ทิ้งไปได้โดยไม่ต้องเสียเวลาล้างเก็บอีกต่างหากค่ะ




Saturday, September 26, 2015

วิธีทำแป้งโดว์ Homemade สะดวก ปลอดภัย และประหยัด


       แป้งโดว์เป็นของเล่นเสริมพัฒนาการยอดนิยมที่เล่นได้ตั้งแต่ขวบกว่าๆ จนถึงวัยประถม สามารถเล่นได้หลายรูปแบบตามจินตนาการของเด็กและการส่งเสริมจากผู้ปกครอง ที่สำคัญเป็นของเล่นราคาประหยัดและสามารถทำเองได้ง่ายโดยใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมงค่ะ

สิ่งที่ลูกได้เรียนรู้จากการเล่นแป้งโดว์มีมากมา

1.ได้ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็ก ซึ่งจำเป็นมากเมื่อลูกเข้าโรงเรียน ถ้ากล้ามเนื้อมือแข็งแรง ลูกจะเขียนหนังสือได้สวย เส้นลายมือดี ไม่บาง และจะพัฒนาการด้านการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วเพราะมีความมั่นใจในการเขียน

2.ฝึกสัมผัส จากความนิ่มหยุ่นของแป้ง เมื่อกดนิ้วลงไปหรือได้บีบนวด

3.เรียนรู้เรื่องสี และการผสมสี

4.เรียนรู้เรื่องรูปร่าง ขนาด 

5.ฝึกจินตนาการ  

        สิ่งสำคัญคือ พ่อแม่ควรมีส่วนร่วมในการเล่นด้วย ความมหัศจรรย์ของแป้งโดว์คือ สามารถปั้นเป็นอะไรก็ได้ ใหญ่เล็กแค่ไหนก็ได้ เป็นคน สัตว์ สิ่งของ ผลไม้ อาหาร หรือแม้แต่สัตว์ปะหลาด นางฟ้า แม่มด อะไรก็ตามที่จินตนาการไปถึง การที่ลูกจะสัมผัสได้ถึงจินตนาการและการเรียนรู้ พ่อหรือแม่ที่เล่นด้วยจะมีส่วนอย่างมากค่ะ เวลาที่เราปั้นลูกจะเลียนแบบและจะรู้ว่าเราสามารถสร้างอะไรได้บ้างจากก้อนแป้งอันนี้ คลึง นวด กด พิมพ์ การกระทำแต่ละอย่างก่อให้เกิดผลอย่างไร เมื่อปั้นเป็นรูปร่างแล้วก็ใส่จินตนาการเข้าไป เล่าเป็นเรื่องราว หรือกระตุ้นให้เกิดคำถามและกระบวนการคิด  

 
      ส่วนตัวแล้วดิฉันชอบแป้งโดว์มากกว่าดินน้ำมัน เพราะไม่เหนียวเท่า ถ้าทำเองสามารถกำหนดความนิ่มความแข็งของแป้งได้ ส่วนผสมไม่อันตราย กลิ่นไม่แรง และเมื่อเล่นเสร็จแล้วล้างออกง่ายกว่ามาก

สูตรทำแป้งโดว์สูตรนี้จะใช้กระทะหรือไม่ใช้ก็ได้นะคะ 


ส่วนผสม
         - แป้งสาลีเอนกประสงค์ 2-3 ถ้วย
         - ครีมออฟทาร์ทาร์ 2 ช้อนโต๊ะ (หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปค่ะ)
         - เกลือ 1 ถ้วย 
         - น้ำต้มสุก 1⅟2 -  2 ถ้วย
         - น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
         - สีผสมอาหาร



วิธีทำ
1. ผสมแป้งและครีมออกทาร์ทาร์เข้าด้วยกันแล้วร่อนใส่ภาชนะ
2. ผสมเกลือลงไป คนให้เข้ากัน
3. ใส่น้ำมันพืช
4. ค่อยๆ ใส่น้ำต้มสุกลงไป พร้อมกับคนไปเรื่อย ๆ ให้ส่วนผสมจับเป็นก้อน น้ำต้มสุกอาจใช้เพียง 1 ถ้วยหรือถ้วยครึ่ง หยุดเติมน้ำเมื่อคนจนแป้งจับตัวเป็นก้อนและได้ความนิ่มตามต้องการแล้ว
* หากใส่น้ำมากเกินไปจนแป้งเหลวเละไม่จับเป็นก้อน ให้นำส่วนผสมทั้งหมดใส่หม้อหรือกระทะแล้วเอาตั้งไฟอ่อนๆ คนไปเรื่อย ๆ ในที่สุดน้ำจะระเหยไปและแป้งโดว์จะจับเป็นก้อนได้เองค่ะ
(ความแข็งและนิ่มของแป้งโดว์สามารถปรับได้ตามต้องการ หากแป้งโดว์แฉะเกินไปก็เติมแป้งเพิ่ม หากแป้งแข็งเกินไปก็เติมน้ำเพิ่ม)
5. ขั้นสุดท้าย แบ่งแป้งเป็นก้อน ๆ ตามสีที่จะใส่ แล้วผสมสีผสมอาหารลงไปทีละก้อน นวดให้สีเนียนเข้ากันดีเป็นอันเสร็จค่ะ (ถ้าชอบสีอ่อนให้หยดสีทีละน้อย) 
*สีผสมอาหารจะซื้อเพียงแม่สีและมาผสมกันภายหลังก็ได้นะคะ เป็นการสอนให้ลูกเรียนรู้เรื่องสีไปด้วยในตัว เช่นแป้งสีแดงผสมสีเหลืองจะกลายเป็นแป้งโดว์สีส้ม
 


         แป้งโดว์ที่ได้เมื่อเล่นเสร็จสามารถเก็บใส่ถุงปิดสนิท แช่ตู้เย็นช่องธรรมดาอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน

         ข้อดีของการทำแป้งโดว์เอง นอกจากประหยัดแล้วก็ยังปลอดภัยอีกด้วย เพราะส่วนผสมทุกอย่างที่เราใส่เข้าไปล้วนแต่ไม่มีอันตรายและเป็นของที่กินได้ทั้งนั้น อย่างไรก็ตามต้องสอนลูกว่าห้ามกินอยู่ดี  (ถ้าลูกเผลอชิม ก็จะแค่รับรู้ว่ามันเค็มปี๋เท่านั้นเอง และก็คงจะเข็ดไปเลยล่ะค่ะ)  

         ข้อดีอีกอย่างที่ดิฉันชอบมาก คือ เราไม่ต้องกังวลว่าลูกจะเอาสีมาผสมกันจนมั่วแล้วแป้งโดว์จะกลายเป็นก้อนดำๆ สีประหลาดเล่นไม่ได้อีก เพราะเราทำแป้งโดว์เองราคาไม่แพง ลูกอยากจะเอาแป้งหลายสีๆ มาผสมกันก็ทำไปเถิด ถ้ามันเละ แม่ก็ทำให้ใหม่ได้เสมอ อีกทั้งการผสมสียังถือเป็นการเรียนรู้อีกด้วย